จังหวัดเชียงใหม่ ตามรอย บุรีรัมย์ และอุทัยธานี

หลังจากที่ก่อนหน้านั้นได้มีจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นต้นแบบในการปิดเมือง และทำการคัดกรองผู้เดินทางเข้าออกจังหวัดไปมารวมถึงการร่วมมือกับเอกชนที่เตรียมสถานที่พักให้กับคนบุรีรัมย์ที่อยู่ในข่ายกักตัวต้องเฝ้าระวัง รวมถึงเจ้าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ได้ออกมาสอนวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาให้กับรัฐบาลชุดนี้ดู

ซึ่งกลายเป็นว่าหลังจากเป็นต้นแบบแล้วนั้น จังหวัดที่ได้ออกมาทำเป็นตามอย่างต่อนั้นคือจังหวัดอุทัยธานี ที่ก็ได้เอาต้นแบบจากบุรีรัมย์  มาบริหารจังหวัดตัวเอง จนล่าสุดจังหวัดท่องเที่ยวชื่อดังอย่างเชียงใหม่ ก็อดทนรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยไม่ไหว ก็ออกมาประกาศขอทำตามแบบอย่างทั้งสองจังหวัดบ้าง โดยล่าสุดผู้ว่าราชการเชียงใหม่ได้ออกมาบอกว่า ทางจังหวัดต้องมีทำการปิดเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 นี้

โดยจะเริ่มต้นด้วยการทยอยปิดสถานที่บางสถานที่ก่อนในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่จะมีคนรวมกลุ่มกันอยู่ได้เยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนตร์ ร้านสปา และนวดแผนเพื่อสุขภาพ ฟิตเนส และโรงละครต่างๆ ตลาดนัด ถนนคนเดิน เพื่อทำการตัดวงจรการแพร่ระบาดในครั้งนี้ ซึ่งขั้นตอนต่อไป ก็จะเริ่มปิดสถานที่ใหญ่ๆ พวกสนามม้า สนามมวย สถานีขนส่ง ที่สามารถจุคนได้มากมาย และอาจมีการติดเชื้อกันค่อนข้างสูง และถ้าหากสถานประกอบการใดไม่ทำหรือไม่ปฏิบัติตามนั้น จะมีโทษปรับตาม พรบ. ควบคุมโรคติดต่อ พร้อมกันนี้จะมีจุดคัดกรองที่สนามบินเชียงใหม่ และสถานีรถไฟ

เพื่อคอยคัดกรองคนเข้าเมืองอีกด้วย โดยปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่นั้น พบผู้ป่วยเข้าข่ายแล้ว 374 คน และคาดว่าจะมีแนวโน้มสูงที่จะติดเชื้อ ซึ่งแบ่งเป็นความเสี่ยงระดับปานกลาง ที่สี่สิบคน ระดับความเสี่ยงสูงที่ ยี่สิบคน และระดับความเสี่ยงต่ำอีกยี่สิบคน โดยจะมีจุดเฝ้าระวังและกักตัวให้กับคนเหล่านี้ เพื่อรอผลตรวจสอบที่โรงพยาบาลนครพิงค์ และที่บ้านพัก ดังนั้นจึงทำให้จังหวัดเชียงใหม่หยุดนิ่งและรอเฉยไม่ได้จึงได้ดำเนินการเอามาตรการปิดเมืองมาใช้ เพื่อปกป้องประชาชนในจังหวัด

และไม่อยากให้ลุกลามใหญ่โตเหมือนเมืองอื่นๆ ในต่างประเทศ อย่างเมืองมิลานในประเทศอิตาลี เพราะตัวเมืองเชียงใหม่เองนั้น ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ที่มีชาวต่างชาติมากมายมาเที่ยว และมาพักอาศัยกันอยู่ในปัจจุบันค่อนข้างมาก จึงทำให้เป็นเมืองและจังหวัดที่ค่อนข้างสุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อและมีโอกาสแพร่กระจายไปค่อนข้างสูง

ดังนั้นการที่จังหวัดเชียงใหม่ต้องเดินตามรอยของจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดอุทัยธานี นั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องกระทำ และไม่ได้คิดที่จะล้ำเส้นของรัฐบาลชุดนี้เลยแม้แต่น้อย และไม่อยากโดนต่อว่าเหมือนอีกสองจังหวัด ที่เค้าเริ่มต้นและทำได้ดี เพื่อป้องกันคนของจังหวัดตัวเอง