เกล็ดความรู้เกี่ยวกับภาษีประชาชน

เรามาเปรียบเทียบกับการจ่ายภาษีของประเทศไทยกับประเทศอเมริกาดูกันหรือไม่ว่ามันเป็นยังไง อเมริกามีประชากรประมาณ300ล้านคน เราให้คุณท้ายว่ามีคนยื่นจ่ายภาษีเท่าไหร่ประมาณสูงถึง43%นิดตกเป็นประชากรประมาณ150ล้านคน ภาษีที่เก็บได้เท่ากับ47.6ล้านล้านบาท แม่เจ้ามันเยอะมาก ต่อหัวต่อคนที่ เอมริกา จ่ายภาษีอยู่ประมาณ3.3แสนบาท/คนจากนั้นเรามาดูที่ประเทศไทยกันบ้างดีกว่า

 

ประเทศไทยมีประชากรประมาณ70ล้านคนเรามีคนยื่นภาษีอยู่ประมาณ16%ภาษีที่เราเก็บได้ประมาณ 0.3ล้านล้านบาทตกต่อหัวต่อคนอยู่ที่ประมาณ29,000บาท/คนดูจากตัวเลขแล้วก็น่าจะเห็นกันใช่ไหมว่ามันชั่งแตกต่างกันเหลือเกินจริงอยู่ที่ว่าประเทศอเมริกามีประชากรเยอะกว่าใหญ่กว่าก็จริงแต่ก็เห็นใช่หรือไม่ว่าการยื่นสัดส่วนของภาษีก็มากกว่าเช่นกันทีนี่ไม่ต้องแปลกใจว่าพอเงินภาษีของเขาเยอะก็สามารถที่จะนำเอาไปสร้างประโยชน์พัฒนาประเทศเศรษฐกิจสังคมและอื่นๆอีกมากมาย

ซึ่งเราไม่ได้จะบอกว่าประเทศอเมริกานั้นดีไปกว่าเราแต่เรากำลังจะบอกว่าเงินภาษีมันมีความสำคัญจริงๆในการที่จะพัฒนาประเทศชาติทีนี่เรามาดูกันว่าเมื่อเขาได้ภาษีมาแล้วมันจะถูกนำเอาไปใช่อะไรบ้างถ้าแบ่งตามลักษณะจะแบ่งออกเป็น3ลักษณะเดียวกัน คือ บริหาร เศรษฐกิจ และ การศึกษา แต่ถ้ามองตามจำนวนเงินมันจะถูกแบ่งออกไปใช้5งบหลักด้วยกัน งบการศึกษา งบผู้สูงอายุ งบกองทัพ งบโรงพยาบาล และ งบตำรวจ เราเชื่อว่าทุกคนก็คงจะเคยได้ยินประโยคว่าประเทศไทยของเราเป็นประเทศที่กำลังจะพัฒนาจำได้เลยในช่วงเรียนคุณครูเขาได้บอกว่าประเทศของเรานั้นกำลังจะพัฒนาจนมาถึงตอนนี้แต่งงานแล้วอายุ42แล้วประเทศของเรามันก็ยังคงกำลังพัฒนาอยู่40ปีแล้วนะ

ซึ่งเราก็เลยสงสัยว่าประเทศกำลังพัฒนาแล้วมันวัดกันยังไงเราเลยเอาคำตอบมาฝากกัน

จริงแล้วประเทศพัฒนาแล้วเขาได้ดูหลายอย่างด้วยกัน หลักๆเลย ภาคเศรษฐกิจ ภาคการผลิต ภาคการบริการ ระบบสาธาณูปโภค ตัวที่ัดได้แม่นยำที่สุดเลยคืออะไรรู้หรือไม่มันคือรายได้ต่อหัวและต่อคน ธนาคารโลก เขาได้มีการแบ่งกลุ่มในโลกทั้งหมดออกมาเป็นหลักๆ3กลุ่มด้วยกัน ก็คือ รายได้น้อย รายได้ปานกลาง รายได้สูง ตัวนี่เขาเรียกว่า รายได้ประชาชาติ 

ซึ่งประเทศไทยเราได้อยู่กลุ่มสองหรือว่ารายได้ปานกลางให้ตอบว่ากี่ปีแล้วเราอยู่มาแล้ว44ปีด้วยกันรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อคนของประเทศไทยเราอยู่ที่ประมาณ189,000บาท/คน/ปี

เมื่อหาร12ออกมาแล้วก็ตกคนละ15,000บาท/เดือนเขาได้มีการวิจัยเอาไว้ว่าถ้าGDPของเราเติบโตปีละ3.5%ต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆเขาคาดกันว่าเราจะใช้เวลา30ปีเราจะได้เข้าไปสู้ประเทศที่พัฒนาแล้วหรือรายได้สูงและเมื่อเราได้ไปถึงเราก็จะได้เข้าไปอยู่ในประเทศเพื่อนๆของเราที่จริงๆแล้วอยู่ใกล้เรามากเลย เช่น สิงค์โปร ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลีใต้ เป็นต้น