เกล็ดความรู้ในการทำธุรกิจแบบ คุณ จินดุ๊กเซ

สำหรับเหตุการณ์วิกฤตเศรษฐกิจในปี40 คุณจินดุ๊กเซ ก็ยังไม่คิดที่จะปิดตัวร้านของเขาลงเหมือนกับร้านหรือโรงงานอื่นๆที่ได้ปิดตัวลงไปแล้วเพราะว่า  คุณจินดุ๊กเซได้เชื่อว่าสิ่งที่เขาฮิตมันคือสิ่งที่เขาได้คิดว่าจากที่เขาได้ทำร้านไก่ย่างมาแล้วนั้นเขาก็ได้พบว่าร้านไก่ย่างมันถูกปากเฉพาะคนบางคนเท่านั้นแต่ถ้าสมมุติว่าเราได้ทำร้านเล็กๆอยู่ในเมืองที่มันได้เป็นเมืองบ้านเกิดของเขาแค่นี้มันก็จะไม่มีวันที่จะเติบโตไปได้ไกลกว่านี้

เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าใครก็ตามต่างก็มีความฝันกันหมดใช่หรือไม่ที่อยากจะให้ร้านของตัวเองที่เป็นลูกแท้ของตัวเองที่ตัวเองสร้างมันขึ้นมาปลุกปั่นมันขึ้นมามันได้กลายเป็นร้านที่คนทั่วโลกรู้จักเขาก็เลยคิดตอนนั้นว่าร้านไก่ย่างมันอาจจะไม่ค่อยดีอีกต่อไปเพราะว่าวัฒนธรรมในการกินไก่ย่างมันไม่ใช่วัฒนธรรมในการกินของคนทั่วโลก

แต่คำถามคือทุกคนทั่วโลกเขากินอะไรเขาก็เลยไปเข้าไปศึกษาดูแล้วก็พบว่าเมนูหนึ่งที่ได้เกี่ยวกับไก่เหมือนกัน ซึ่งทุกคนทั่วโลกได้กินมันมาหมดเลยนั่นก็คือเมนูไก่ทอดเขาก็เลยตัดสิ้นใจจากประสบการณ์การทำอาหารของเขาจากสูตรการปรุงอาหารของครอบครัวเขาเองเขาจะคิดสูตรไก่ทอดที่ไม่เหมือนใครให้ดูหลังจากที่เราได้ลองผิดลองถูกมาเยอะแล้วที่สำคัญก็คือเขาพยายามศึกษาวิจัยกับลูกค้าว่าปกติแล้วคนที่มากินไก่ทอดเขามากินเพราะอะไรไม่กินเพราะอะไรแน่นอนสิ่งที่เขาได้เห็นก็คือหลายคนเดินมาร้านนี้เข้ามากินไก่ทอดมากินกับเพื่อนแล้วบางคนไม่หยิบขึ้นมากินเลยคำถามนั้นมันก็คือเพราะอะไร

แน่นอนว่าถ้าเป็นเรา เราอาจจะไม่ได้สังเกตก็ได้ว่าใช่ไหมสำหรับคนที่ไม่กินไก่ทอดและสำหรับคุณจินดุ๊กเซเขาไม่ได้คิดอย่างงั้นเขาจะต้องคิดว่าทำยังคนถึงจะชอบกินไก่ทอดของเขาให้ได้เขาก็เลยที่จะเข้าไปศึกษาว่าจริๆแล้วหนึ่งในปัญหาของคนที่ไม่ค่อยชอบกินของทอดก็เพราะว่ามันอมน้ำมัน คุณจินดุ๊กเซ เองก็เลยตัดสินใจที่จะพยายามค้นคว้าสูตรใหม่ของตัวเองขึ้น

มาจนกระทั่งเขาสามารถค้นพบวิธีในการตั้งน้ำมันในอุณหภูมิที่พอเหมาะเวลาที่เหมาะสมแล้วก็เป็นการทอดสองครั้งประกอบกับเครื่องปรุงเครื่องเทศต่างๆที่เขาได้ใส่เข้าไปในแต่ละเวลาที่แตกต่างกันจนกลายมาเป็นไก่ทอดรีดไขมันใต้หนังออกไปจึงทำให้ไก่ทอดของBonchonเป็นไก่ทออดที่ไม่ค่อยอมน้ำมันเราจะไม่ค่อยมีความรู้สึกว่าไก่ทอดนั้นมันไม่ค่อยอมน้ำมันเลยหรือว่าน้ำมันมันเยอะจังเลยเราจะสัมผัสได้ถึงซอสของเครื่องเทศตรงนั้นมากกว่า

 

 

สนับสนุนโดย  rb88

วิกฤติครั้งใหญ่ของวงการสื่อสิ่งพิมพ์ไม่ว่าจะเป็นไทยรัฐหรือเดลินิวส์

       เรียกได้ว่าทุกวงการต่างก็ประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของธุรกิจด้วยกันทั้งนั้นเริ่มตั้งแต่ธุรกิจการบินธุรกิจการโรงแรมร้านค้าธุรกิจการท่องเที่ยวกลุ่มผู้เกษตรกรบริษัทต่างๆสถานบันเทิงหรือแม้แต่ธุรกิจสิ่งพิมพ์ต่างก็ได้รับผลกระทบตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโควิด กันหมดซึ่งแน่นอนว่าสื่อสิ่งพิมพ์ที่กำลังมีปัญหาที่จะปรับโครงสร้างใหม่อยู่ในขณะนี้ก็คือหนังสือพิมพ์ของไทยรัฐและหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ซึ่งสองสำนักพิมพ์นี้ถือได้ว่าเป็น 2 สำนักพิมพ์ที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทยแต่ก็ต้องประสบกับปัญหาวิกฤตซึ่งแน่นอนว่าจริงๆแล้ววิกฤติปัญหาของทั้งสองสื่อสิ่งพิมพ์นี้มีมานานก่อนที่จะมีการระบาดของไวรัสโควิค

เสียอีกแต่พอมาเจอกระแสวิกฤตของไวรัสโควิตซ้ำเข้าไปจึงทำให้เรียกว่าวิกฤตซ้อนวิกฤตได้เลยทีเดียวเพราะนับตั้งแต่ที่มีการประกาศจากทางรัฐบาลให้มีกิจกรรมต่างๆก็ทำให้งบประมาณในการที่จะทำสื่อโฆษณาต่างๆของบริษัทต่างๆนั้นลดลงการจัดงาน Event ต่างๆรวมถึงการจัดโปรแกรมทัวร์ต่างๆก็ไม่มีที่จะมาลงโฆษณาตามสื่อหนังสือพิมพ์และแน่นอนว่าในยุคดิจิตอลแบบนี้ประชาชนส่วนใหญ่ที่บริโภคข่าวสารนั้นก็หันมาใช้วิธีการบริโภคข่าวสารโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วยการดูผ่านทางอินเทอร์เน็ตแทนที่จะซื้อหนังสือพิมพ์

เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับตนเองอีกทั้งการดูข่าวจากหนังสือพิมพ์ก็ยังต้องเสียเวลาในการไปหาซื้อหนังสือพิมพ์แต่ในขณะเดียวกันถ้าดูผ่านทางอินเทอร์เน็ตนั้นใช้เวลาแค่เพียงไม่นานก็สามารถดูข่าวสารนั้นได้แล้วและสามารถที่จะย้อนกลับไปดูหลังจากนั้นอีก 3-4 วันได้อีกด้วยทำให้การดูข่าวสารผ่านทางอินเทอร์เน็ตนั้นได้รับความสะดวกสบายมากกว่าการที่ประชาชนจะต้องเสียเวลาไปซื้อหนังสือพิมพ์หรือรับหนังสือพิมพ์ให้มาส่งที่บ้านดังนั้นสำนักพิมพ์ต่างๆจึงได้รับผลกระทบอย่างมากยิ่งจะมีวิกฤตของไวรัสโควิช- เพิ่มขึ้นมาการที่รัฐบาลประกาศให้มีการหยุดงานทำให้ธุรกิจหลายธุรกิจนั้น

ขาดรายได้ซึ่งปกติแล้วรายได้ของสื่อหนังสือพิมพ์ก็จะมาจากบริษัทเหล่านี้ที่จะทำการโฆษณาบริษัทตนเองแต่เมื่อแต่ละบริษัทนั้นก็เจอวิกฤตทางด้านการเงินกระแสเศรษฐกิจของบริษัทไม่ดีก็ทำให้บริษัทต่างๆนั้นตัดงบประมาณโฆษณาออกทำให้ไม่ค่อยมีใครซื้อโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์แต่หันไปใช้โฆษณาผ่านทางออนไลน์แทนและแน่นอนว่าเมื่อเจอวิกฤติแบบนี้

สิ่งที่ทางสื่อหนังสือพิมพ์ไทยรัฐหรือแม้แต่ดินทำได้ก็คือการที่จะต้องตัดแผนกบางแผนกของสำนักพิมพ์ออกเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายและยังคงให้สถานการณ์ของสำนักพิมพ์นั้นอยู่ได้อย่างเช่นที่ในขณะนี้ที่ไทยรัฐเองหรือแม้แต่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ก็กำลังจะมีการแจ้งพนักงานให้ลาออกโดยคาดว่าจำนวนพนักงานที่จะตกงานจากสำนักพิมพ์นั้นจะมีมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์

ซึ่งแน่นอนว่าการเลิกจ้างพนักงานน้อยก็ย่อมต้องทำตามกฎหมายอย่างถูกต้องโดยมีการจ่ายเงินค่าชดเชยให้แล้วถึงแม้จะรู้สึกสงสารพนักงานเหล่านั้นไปทางผู้บริหารของสำนักพิมพ์ก็ต้องเห็นแก่ประโยชน์ของสำนักพิมพ์เป็นหลักซึ่งยังต้องมีพนักงานอีกหลายคนที่ยังคงต้องทำงานอยู่ด้วยกันดังนั้นการที่จะทำให้สื่อสิ่งพิมพ์นั้นยังคงอยู่รอดได้ก็จำเป็นต้องมีการตัดปีกของตนเองออกบางส่วนอย่างที่ตอนนี้กำลังจะลดจำนวนพนักงานลงนั่นเอง

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ติดต่อ next88

เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส

หลังจากที่ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมามีกระแสข่าวการหย่าร้างกันอย่างมากมายในคู่รักของประเทศญี่ปุ่น ด้วยเหตุผลที่คู่รักส่วนใหญ่เริ่มเบื่อชีวิตคู่เพราะอยู่ด้วยกันและเจอกันมากเกินไป ซึ่งฟังแล้วเศร้าใจยังไงไม่รู้ แต่ในวิกฤติย่อมมีโอกาส เมื่อมีคนญี่ปุ่นมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ ซึ่งบริษัท Kasoku ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการห้องเช่าในประเทศญี่ปุ่นนั้น ได้ผุดไอเดียวขึ้น โดยใช้ชื่อแคมเปญว่า “ห่างกันสักพัก” ซึ่งเป็นแคมเปญที่ให้คู่รักแยกกันอยู่แต่ยังไม่ต้องถึงขนาดเลิกกัน เพราะถ้าปัญหามันเกิดจากการอยู่ด้วยกันมากเกินไปก็ควรที่จะต้องแยกกันอยู่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องให้เกิดปากเสียงกันตลอดเวลาในช่วงที่รู้สึกเครียดหรือไม่สบายใจ

โดยโครงการนี้จะเป็นโครงการห้องพักราคาประหยัด ซึ่งจะได้ช่วยเรื่องแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวและยังเป็นผลดีต่อบริษัทฯ อีกด้วย เพราะจากเดิมที่เมื่อก่อนห้องเช่าพวกนี้จะเต็มตลอดเวลา แต่พอเกิดวิกฤติไข้ไวรัสนั้นระบาดขึ้นแล้วจึงทำให้ห้องเช่าที่เคยเต็มอยู่ตลอดเวลาต้องว่างลงไป

ซึ่งแคมเปญที่เกิดขึ้นนี้ ตามรายงานข่าวก็แจ้งว่าเริ่มมีครอบครัวหลายครอบครัวที่เริ่มที่จะเข้าโครงการนี้แล้ว เพื่อลองใช้ชีวิตในช่วงเวลาที่ห่างกัน อาจจะทำให้กลับมารักกันอีกครั้งหรือรักกันมากขึ้น แต่หลังจากที่มีแคมเปญนี้เกิดขึ้น ปัญหาก็มีตามมาเช่นกัน เพราะช่วงที่ทุกอย่างหยุดหมดนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องการเรียนของเด็กๆ ที่ต้องปิดโรงเรียนไม่มีการเรียนการสอน เด็กๆ ก็มักจะหนีออกมาเช่าห้องและแอบมาอยู่ด้วยกันตอนกลางวัน จนเริ่มที่จะมีปัญหาใหม่ขึ้นมา

คือการตั้งทองในวัยที่ไม่สมควร ซึ่งตามรายงานข่าวนั้น มีความเป็นไปได้สูงเหลือเกินว่าแคมเปญห่างกันสักพัก แล้วให้มีการเช่าห้องพักในราคาที่ประหยัดนั้น อาจจะต้องถูกปิดตัวลงในไม่ช้านี้ เนื่องด้วยผลประโยชน์ที่ได้รับมันมีผลเสียที่มากกว่า และจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสังคม ที่มีเด็กที่ยังไม่มีวุฒิภาวะเข้ามาเกี่ยวข้องและอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่มากกว่าปัญหาการหย่าร้างเสียอีก

ซึ่งตอนนี้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นเองก็กำลังมองหาหนทางแก้ปัญหาให้ทุกอย่างออกมาด้วยดี โดยที่เริ่มจะมีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ รวมไปถึงการเปิดสายด่วนตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เพื่อรับปรึกษาปัญหาครอบครัวที่เกิดจากความเครียดในช่วงภาวะวิกฤติเช่นนี้ โดยโครงการนี้น่าจะเริ่มเปิดภายในเร็วๆนี้ และทางรัฐบาลเชื่อว่าหลังจากทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปรกติ การดำรงการใช้ชีวิตหรือการอยู่ด้วยกันของสามีภรรยา ก็จะกลับเข้ามาสู่รูปแบบเดิม และการหย่าร้างก็จะลดหายลงไป

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน จ่ายจริง

ธนาคารกรุงไทย เตรียมแผนการบริหารธุรกิจใหม่เพื่อเป็นการลดต้นทุน

           สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบันนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบเฉพาะแค่ประชาชนและบริษัทหรือแม้แต่โรงแรมเท่านั้นหากแต่ด้านธนาคารเองก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันเนื่องจากด้วยเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ไม่ดีแบบนี้ทำให้ประชาชนนั้นไม่มีรายได้พอที่จะไปทำการใช้หนี้ธนาคารไม่ว่าจะเป็นพวกหนี้บัตรเครดิตหรือแม้แต่นี่ของการกู้เงินซื้อบ้านต่างๆ

ดังนั้นธนาคารเองก็จะต้องมีการวางแผนการในอนาคตของตนเองเช่นเดียวกันในการที่จะเตรียมรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นซึ่งตอนนี้สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นยังไม่แน่นอนว่าจะดีขึ้นเมื่อไหร่ดังนั้นทางธนาคารกรุงไทยจึงได้มีการวางแผนในการที่จะทำการลดต้นทุนของธนาคารด้วย

การที่จะมีการลดจำนวนสาขาลงเป็นการรวมสาขาหลายๆสาขาหากอยู่ใกล้กันก็จะเอามารวมไว้เป็นจุดเดียวกันเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับทางธนาคารกรุงไทยนั่นเองซึ่งแน่นอนว่าจากข้อมูลเบื้องต้นที่ทางธนาคารกรุงไทยคำนวณจำนวนสาขาที่จะมีการควบรวมออกมานั้นมีมากถึงประมาณเกือบร้อยสาขาเลยทีเดียวโดยทางธนาคารกรุงไทยมองว่าในช่วงเวลานี้ประชาชนส่วนใหญ่นั้นยังไม่ค่อยไปทำธุรกรรมด้านการเงิน เช่นการฝากเงินหรือการถอนเงินสักเท่าไหร่

เนื่องจากว่าสภาพคล่องของแต่ละครัวเรือนนั้นก็ยังไม่ค่อยมีรายได้เข้ามามากนักอีกทั้งปัจจุบันนั้นมีเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินหรือฝากเงินผ่านตู้อัตโนมัติที่ธนาคารมีการเรียนไว้หรือสามารถทำผ่านทางแอพพลิเคชั่นผ่านมือถือก็ได้ดังนั้นเมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาจำนวนพนักงานที่เป็นคนในการทำธุรกรรมให้กับลูกค้าจึงลดน้อยลงได้เช่นเดียวกันแต่อย่างไรก็ตามทางธนาคารกรุงไทยมองว่าถึงแม้ว่าทางธนาคารจะมีการลดจำนวนสาขาลงก็ตามแต่ก็ยังจะยังคงรักษาสถานะจำนวนพนักงานเอาไว้

ซึ่งพนักงานเหล่านั้น แต่ยังคงทำงานให้กับทางธนาคารกรุงไทยได้โดยให้ใช้เป็นการย้ายไปทำธุรกรรมด้านอื่นแทน ซึ่งแน่นอนว่าพนักงานเหล่านั้นก็จะต้องมีการเรียนรู้กับเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อที่จะได้มาปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีที่ทางธนาคารจะมีเข้ามาใหม่ๆเพื่อบอกคอยบริการลูกค้าอย่างไรก็ตามเบื้องต้น

นั้นทางธนาคารมองว่าในทุกๆปีก็จะมีพนักงานที่มีอายุครบวัยที่จะต้องเกษียณงานอยู่แล้วที่จะลาออกจากตำแหน่งดังนั้นเบื้องต้นทางธนาคารจะยังไม่มีการปลดพนักงานออกหรือร่มเกล้าพนักงานแต่อย่างใดแต่ถ้าเกิดว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือสถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้นในอนาคตก็อาจจะมีการเลิกจ้างได้เช่นเดียวกัน 

สำหรับแนวทางการดำเนินการรูปแบบใหม่ของทางธนาคารนั้นอาจจะเป็นลักษณะของการที่ให้พนักงานนั้นสามารถที่จะทำงานอยู่ที่บ้านได้โดยใช้เงื่อนไขของการทำงานแบบ work from home ซึ่งก่อนหน้านี้เคยได้มีการทดลองให้พนักงานทำงานอยู่ที่บ้านแล้วพบว่าประสิทธิภาพการทำงานไม่ได้ด้อยไปกว่าการทำงานที่ทางธนาคารเลย

ดังนั้นเราสามารถลดค่าใช้จ่ายของทางสาขาของแต่ละธนาคารได้ซึ่งพนักงานเองก็จะได้ลดเวลาในการเดินทางดังนั้นการทำงานรูปแบบใหม่ที่ธนาคารกรุงไทยมีการคิดเอาไว้ก็จะให้สอดคล้องกับพฤติกรรมสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทยเช่นเดียวกัน

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ทางเข้าsagame

เปิดธุรกิจการท่องเที่ยวและคิดว่าโรงแรมจะไปรอดหรือไม่

    ตอนนี้ประเทศไทยถือว่ามีการคลายล็อคเกือบหมดแล้วธุรกิจต่างๆสามารถเริ่มเปิดให้บริการได้ตามปกติจะมีเหลือแค่บางประเภทเท่านั้นที่ยังคงติดอยู่ก็คือกลุ่มธุรกิจ สถานบันเทิงนั่นเองอย่างไรก็ตามตอนนี้ธุรกิจที่กำลังจับตามองมากที่สุดก็คือธุรกิจการโรงแรมซึ่งตอนนี้เราเปิดการท่องเที่ยวทุกภาคและทุกจังหวัดให้นักท่องเที่ยวนั้นสามารถไปท่องเที่ยวได้ตามปกติแล้วและยังมีโครงการจากรัฐบาลออกมาที่เป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวด้วยการออกโครงการจะแจกเงินให้ประชาชนนั้นไปเที่ยวฟรีซึ่งจะมีการแจกให้ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป

และมีการลงทะเบียนแน่นอนว่าเงื่อนไขที่ออกมานั้นจะเป็นการแจกคูปองสำหรับที่พักเพื่อหนุนกิจการโรงแรมต่างๆให้มีรายได้แต่ถึงแม้ว่าเราจะมีการหนุนจากรัฐบาลให้นักท่องเที่ยวนั้นออกไปท่องเที่ยวตามต่างจังหวัดและพักตามโรงแรมต่างๆแต่ก็ใช่ว่าโรงแรมที่รัฐบาลมีการร่วมกันกลับทางโรงแรมนั้นจะไปโรงแรมที่น่าสนใจของลูกค้าเพราะบางโรงแรมนั้นก็มีค่าใช้จ่ายสูงเกินความจำเป็นและบางครั้งช่วงเวลาของการหยุดก็ไม่ใช่เป็นวันหยุดยาวทำให้การไปเที่ยวต่างจังหวัดไกลๆนั้นเชื่อว่านักท่องเที่ยว

ส่วนใหญ่อาจจะยังไม่ได้เริ่มไปเที่ยวในช่วงเวลานี้ส่วนมากการไปเที่ยวก็จะเน้นการไปเที่ยวใกล้บ้านแบบไปเช้าเย็นกลับซึ่งมันก็จะมีผลกับธุรกิจโรงแรมว่าพวกเขาเหล่านั้นจะไม่ได้ลูกค้าที่เข้าพักในโรงแรมและทำให้ถึงแม้ว่าเปิดโรงแรมมาได้แล้วรายได้ของโรงแรมก็จะไม่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

เพราะถ้ายังมีคนออกไปเที่ยวแต่เข้าพักในโรงแรมน้อยก็ไม่ได้ส่งผลให้ธุรกิจการโรงแรมดีขึ้นซึ่งทางโรงแรมนั้นอาจจะต้องมีโปรโมชันออกมาให้หลากหลายเพื่อเป็นการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวนั้นอยากจะเที่ยวและเข้าพักในโรงแรมของตนเองซึ่งตอนนี้ก็มีโรงแรมขนาดใหญ่ระดับ 5 ดาวออกมามากมายในการดึงดูดลูกค้าให้ไปพักในโรงแรมถึงขนาดที่หั่นราคาจากราคาที่พักหลักหมื่นลดลงมาเหลือหลักพันเลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทางด้านการเงินของแต่ละคนในตอนนี้นั้นการที่จะต้องใช้เงินจำนวนมากในการไปเที่ยวนั้นอาจจะเป็นเรื่องยากพอสมควรเพราะหลายคนนั้นก็จะต้องมีการเก็บเงินเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินเพราะไม่รู้ว่าในอนาคตนั้นการระบาดของไวรัสโคโรนาจะกลับมาอีกหรือไม่หากใช้เงินทุ่มเทไปกับการท่องเที่ยวหมดในช่วงนี้

ถ้าเกิดว่าเชื้อไวรัสโคโรนาระบาดรอบสองรอบแล้วก็จะสร้างผลเสียให้กับประชาชนเป็นอย่างมากเพราะเงินนั้นจะถูกใช้จ่ายออกไปหมดแล้วจะการท่องเที่ยวดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงมักจะมีการสำรองเงินไว้เพื่อใช้จ่ายในช่วงนี้ก่อนจึงทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวช่วงนี้อาจจะยังไม่ดีเท่าที่ควร

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  betbb

เศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยจะไปรอดหรือไม่ภายในปีนี้

         อย่างที่เราทราบกันดีว่าตอนนี้ทางรัฐบาลเองกำลังพยายามกระตุ้นเกี่ยวกับเรื่องของการท่องเที่ยวภายในประเทศไทยเพื่อให้ประชาชนนั้นพากันออกไปท่องเที่ยวยังต่างจังหวัดกันมากขึ้นเพื่อหวังที่จะให้มีรายได้เข้ามา เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ดีขึ้นแต่อย่างไรก็ตามหากเทียบกันแล้วระหว่างรายได้ของประเทศทางด้านการท่องเที่ยวในปีอื่นๆที่ผ่านมานั้นสำหรับรายได้การท่องเที่ยวภายในประเทศไทยกับรายได้การท่องเที่ยวระหว่างประเทศงั้น

การท่องเที่ยวระหว่างประเทศถือว่าสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยได้มากกว่าเลยลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยนั้นก็จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวยุโรปและอเมริกาซึ่งปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนนั้นเริ่มที่จะต้องการออกมาท่องเที่ยวยังต่างประเทศแล้ว

โดยยังคงมองประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่อยากจะมาเที่ยวส่วนหนึ่งนั่นก็เพราะว่าประเทศไทยนั้นสามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาได้แล้วทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมั่นใจว่าหักมาเที่ยวที่ประเทศไทยเขาจะปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าแน่นอนเพราะระบบการป้องกันของประเทศไทยเกี่ยวกับเชื้อโรคนั้นค่อนข้างมีประสิทธิภาพ

หากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในหลายๆประเทศทั้งในแถบเอเชียและอเมริกาหรือยุโรปก็ตามแต่อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ตอนนี้ประเทศไทยเองยังไม่ได้มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเปิดเฉพาะการท่องเที่ยวในประเทศไทยเท่านั้นซึ่งการเปิดให้นักท่องเที่ยวเที่ยวภายในประเทศจะไม่สามารถที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวได้มากเท่าที่ควรเพราะอย่าลืมว่าในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่าเมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่านมานั้น

ประชาชนส่วนใหญ่ขาดแคลนรายได้เพราะต้องหยุดงานอยู่แต่ที่บ้านเพราะฉะนั้นเงินค่าใช้จ่ายในการที่จะนำออกมาเที่ยวนั้นจึงไม่ค่อยมีถึงแม้รัฐบาลจะมีการออกโครงการช่วยเหลือให้นำเงินของรัฐบาลออกไปท่องเที่ยวเองก็ตามแต่ก็ไม่เพียงพอต่อการที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาดีได้เหมือนเดิม

เพราะฉะนั้นถ้าเกิดรัฐบาลยังคงมีการปิดประเทศไม่ให้ต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวนั่นก็อาจจะทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทยนั้นแต่ยังคงไม่รอดพ้นวิกฤตในช่วงนี้อย่างแน่นอนเพราะสิ่งที่จะทำให้สถานะเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นดีขึ้นจำเป็นที่จะต้องมีการเปิดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามารายได้ของประเทศไทย

จึงจะมีมากขึ้นนั่นเอง ดังนั้นตอนนี้จึงเป็นปัญหาที่ทางรัฐบาลจะต้องรีบตัดสินใจว่าจะสามารถเปิดให้ประเทศไทยนั้นรับท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศได้เมื่อไหร่เพราะเมื่อปิดนานบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องของการท่องเที่ยวก็จะยิ่งประสบปัญหามากขึ้นและจะปิดตัวปิดกิจการมากขึ้นแน่นอนว่าในอนาคตหากมีการเปิดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศก็จะยังได้รับผลกระทบเพราะว่าไม่มีบริษัทการท่องเที่ยวเปิดให้บริการนั้นเอง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย   sagame เอเชีย

ถึงแม้ว่าจีนจะเจอกับวิฤกตไวรัสโควิด-19 แต่ก็ไม่ทำให้เศรษฐกิจของจีนแย่ลงมาก

             เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าประเทศจีนนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาและแน่นอนว่าเมื่อเป็นประเทศแรกๆที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสจึงมีการคาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจของประเทศจีนในไตรมาสแรกนั้นน่าจะติดลบสูงแต่เมื่อมีการประกาศผลไตรมาสของทางด้านเศรษฐกิจของประเทศจีนออกมากับพบว่ามีแนวโน้มการลดลงเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นซึ่งเราต้องมาลองพิจารณากันดูว่าเหตุใดในขณะที่จีนนั้นเป็นผู้เริ่มติดเชื้อไวรัสโคโรนาประเทศแรกแต่ทำไมเขาถึงไม่ได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจมากมายอย่างที่ควรจะเป็นซึ่งถ้าเราพิจารณากันดีๆ

ก็จะเห็นว่าประเทศจีนนั้นได้มีการประกาศปิดเมืองในช่วงที่ใกล้กับเทศกาลตรุษจีนซึ่งแน่นอนว่าปกติแล้วในช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้นประชาชนชาวจีนจะต้องมีการหยุดการทำงานกันอยู่แล้วและทางบริษัทต่างๆก็จะมีการมอบเงินให้กับลูกน้องพนักงานของตนเองเพื่อเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในช่วงที่มีการจัดงานตรุษจีนกันดังนั้นส่วนหนึ่ง

จึงทำให้เห็นได้ว่าจีนมีการเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้วที่จะมีการหยุดงานอยู่ที่บ้าน และเมื่อทุกคนเดินทางออกไปนอกเมืองเพื่อมาเยี่ยมครอบครัวนั้นก็ทำให้พื้นที่ที่ คิดว่าน่าจะมีประชากรหนาแน่นนั้นเบาบางลงทำให้การระบาดของไวรัสโคโรน่านั้นไม่สูงเท่าที่ควรและแน่นอนว่าคนที่ไปอยู่ต่างจังหวัดกับครอบครัวของตนเองนั้นก็จะมีเงินจากการที่ได้รับจากนายจ้างช่วงก่อนตรุษจีนมาเป็นค่าใช้จ่ายทำให้พวกเขาไม่เดือดร้อนมากนักและยังไม่เคลื่อนเข้าไปใหญ่เมื่อเขาต้องกลับไปอยู่กับครอบครัวเพราะไม่ต้องอยู่ตัวคนเดียวตามเมืองใหญ่ๆเหมือนกับที่ชาวกรุงเทพฯเผชิญอยู่ก่อนหน้านั้น

และแน่นอนว่าช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนประชาชนคนจีนนั้นจะมีแนวโน้มกันไปเที่ยวต่างประเทศซึ่งเป็นการช่วยให้ประเทศจีนนั้นมีประชากรลดลงในช่วงเวลาดังกล่าวทำให้สามารถเว้นระยะห่างระหว่างกันได้จึงเป็นสาเหตุให้ประเทศจีนนั้นสามารถควบคุมการระบาดของไวรัสได้และที่สำคัญประเทศจีนยังสามารถจัดการเกี่ยวกับเรื่องของการทำงานที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่ประเทศจีนต้องหยุดในช่วงเทศกาลวันตรุษจีนนั้นบริษัทต่างๆก็สามารถหาคิดวิธีการที่จะทำการทำงานอย่างไรก็ได้ให้พนักงานของตนเองนั้น

สามารถทำงานที่บ้านได้หรือถ้าเกิดบริษัทไหนที่ไม่สามารถทำงานที่บ้านได้เขาก็จะสามารถวางแผนการทำงานของพนักงานได้ว่าจะทำงานสลับกันแบบไหนทำให้ธุรกิจหรือกิจกรรมต่างๆของในประเทศจีนนั้นยังสามารถดำรงทำงานต่อเนื่องได้โดยที่ไม่ถูกปิดกิจการเหมือนกับประเทศอื่นๆที่เมื่อมีการล็อกดาวน์แล้วทุกคนต้องหยุดอยู่บ้านอย่างเดียวเพราะจีนนั้นได้มีโอกาสที่จะหาแนวทางป้องกันเอาไว้ก่อนได้แล้ว

และที่สำคัญนั้นคุณจะเห็นได้ว่าจีนนั้นปกติเวลาที่ไปซื้อของจ่ายเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือก็คือผ่านทางแอพพลิเคชั่นเท่านั้นไม่ได้พกเป็นเงินสดดังนั้นการที่เชื้อไวรัสโคโรน่าจะมีการติดต่อจากคนสู่คนด้วยการจับสินค้าร่วมกัน สิ่งของร่วมกันนั้นเป็นไปได้ยากนั่นเอง และทำให้เราเห็นได้ว่าเศรษฐกิจของประเทศจีนนั้นไม่ได้ประสบปัญหาย่ำแย่อย่างที่ควรจะเป็นเนื่องจากว่าเขามีการจัดการที่ดีมาก่อนหน้าที่จะมีการเมืองแล้ว

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  sagame888

อาชีพทำสติ๊กเกอร์ไลน์ขาย

วันนี้เราได้มีอีกหนึ่งอาชีพที่จะนำเอามาเสนอนั่นก็คืออาชีพทำสติ๊กเกอร์ลายขายหลายๆคนอาจจะมองเห็นเราบอกว่าทำสติ๊กเกอร์ลายขายหลายๆได้ยินเราบอกว่าทำสติ๊กเกอร์ลายขายหันหนีไปกันหมดเพราะฉะนั้นคุณอย่าพึ่งตัดสินใจหนีไปไหนคุณใจเย็นๆก่อน คุณไม่ใช่ดีไซเนอร์ คุณไม่ใช่คนที่ออกแบบอะไรเก่งๆคุณวาดรูปไม่เป็นก็สามารถที่จะทำสติ๊กเกอร์ไลน์ขายได้

คุณสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆเพียงแค่คุณเข้าไปที่หน้ามือถือของเราขั้นแรกเราจะต้องไปอัพโหลดไลน์เกียเตอร์มาจากนั้นให้คุณเปิดมันขึ้นมาจากนั้นในขั้นตอนต่อมาเราไม่รู้ใช่หรือไม่ว่าเราจะสร้างมันขึ้นมาได้อย่างไงจากนั้นเขาก้แค่เข้าไปตรงรูปตัวบวกจากนั้นมันก็จะขึ้นรูปต่างๆขึ้นมาจากนั้นก็ให้เรากดเข้าไปที่รูปบวกอีกครั้งเพื่อที่คุณนั้นจะต้องสร้างสติีเกอร์ของตัวคุณขึ้นมาเอง

จากนั้นคุณก็สามารถเลือกเอาได้เลยหรือว่าคุณจะเลือกเอาในรูปถ่ายหรือว่าคุณนั้นจะเข้ามาจากอะไรซึ่งมันก็จะมีตัวอย่างที่หลายคนเขาได้ทำมาซึ่งเราไม่ได้ใช้อะไรเลยเราก็แค่ใช้เพียงแค่รูปวาด

ซึ่งมาดูกันเราจะเข้าไปที่การแก้ไขภาพก็คือว่าให้คุณนั้นเปิดมันขึ้นมาแล้วก็เลือกตัวอิโมชั่นซึ่งเราก็จะต้องกดเข้าไปเลือดหาดูเอาเอาเพราะว่ามันจะไม่มีมาให้ฉะนั้นคุณก็จะต้องไปโหลดลงมาเองได้ง่ายๆภายในเครื่องมือถือของคุณเองและคุณก็สามารถที่จะเรียกว่าจะเอาอิโมชั่นแบบไหนและตัวการ์ตูนแบบไหนที่จะเอามาประดับตกแต่งตัวสติ๊กเกอร์ของเรา

ซึ่งเราก็สามารถที่จะลองนำเอามาทดลองได้เลยสมมุติเราเลือกเอาน้ำตาและสิ่งที่เรานั้นจะเลือกอันต่อมาก็คือหนวดซึ่งมันจะเป็นหนวดร้องไห้ซึ่งมันก็จะมีความน่ารักในแบบฉบับของเราเองซึ่งเราไม่รูปว่าคนอื่นจะชอบหรือไม่ว่า ซึ่งเราก็สามารถที่จะดูตัวอย่างได้และถ้าเราได้กดส่งมันไปแล้วมันก็จะมีลักษณะแบบนี้ทำไปเลยซึ่งมันก็ได้เป็นสิ่งที่เรานั้น

ได้ทำและถ้าสมมุติว่าถ้าหากว่าเรานั้นต้องการที่จะให้รูปภาพของเราที่เราได้แต่งเอาไว้ให้มันมีตัวหนังสือสักหน่อยเราก็สามารถที่จะใช่เข้าไปได้เลยทำแบบนี้ให้มันได้สักประมาณ8อัน ซึ่งขั้นตอนในการทำมันก็ง่ายๆ

ก็แค่เราเข้าไปเลือกรูปภาพต่างๆเข้ามาหรืออิโมชั่นที่เราจะต้องการเราก็แค่เลือดโหมดมาก็แค่พิมง่วงแง้วเราสามารถเอาไว้ใช้คุยกับแฟนได้มันก็จะเป็นแบบว่าตาหนวดง่วงแง้วและตัวหนังสือมันสามารถที่จะเปลี่ยนสีได้มันไม่ได้ยากอะไรเลยยังไงก็รอฝึกทำกันดูแล้วกัน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  sagame

ไข้โควิด 19 ทำให้อัตราการฆ่าตัวตายลดลงจริงหรือไม่?

สิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ล้วนมีความไม่แน่นอน วันนี้รวย พรุ่งนี้อาจจะจน และวันนี้จน พรุ่งนี้รวย ก็มีให้เห็นกันเยอะไป แต่สิ่งหนึ่งบนโลกใบนี้ที่หลายๆคน ไม่สามารถยอมรับมันได้นั่นคือ ความเปลี่ยนแปลงกะทันหัน และยิ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง ยิ่งทำให้มนุษย์หลายๆ คนยิ่งรับไม่ได้ บางคนอาจหาทางออกและจบลงด้วยการฆ่าตัวตาย ซึ่งมีเคสแบบนี้หลายๆครั้ง

เกือบทุกประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ที่มีอัตราการเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายสูงเป็นอันดับต้นๆ ในโลก แต่ตั้งแต่มีปัญหาการแพร่ระบาดไข้โควิด 19 นั้น อัตราการฆ่าตัวตายของคนญี่ปุ่นกลับลดต่ำลงมาที่สุดในรอบ 5 ปี ซึ่งถืวว่าเป็นเรื่องน่าแปลกและสวนกระแสสังคม เพราะหากดูจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้แล้วนั้น

ความเครียดน่าจะมีเพิ่มขึ้นมากกว่าทวีคูณ แต่ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าจากสถิติการฆ่าตัวตายของคนญี่ปุ่นนั้นส่วนใหญ่เกิดจากความเครียดของการทำงาน การเรียน หรือแม้แต่การถูกกลั่นแกล้งและรวมไปถึงการแข่งขันต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการฆ่าตัวตายมากที่สุด แต่พอเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดขึ้น

มาทำให้ต้องมีการปิดประเทศและเกิดการมาตรการปิดโรงเรียน และทำงานจากที่บ้าน จึงอาจทำให้เกิดการพบปะกันระหว่างเพื่อนร่วมงาน และเพื่อนร่วมเรียนน้อยลง จึงอาจจะทำให้บรรยากาศความเครียดนั้นน้อยลงไป แต่ก็ไม่รู้ว่าหากสถานการณ์กลับมาปรกติแล้วนั้น อัตราการฆ่าตัวตายจะกลับไปสูงเพิ่มขึ้นเหมือนเดิมหรือเปล่า เพราะอันที่จริงแล้ว

จากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากผลกระทบของไข้ไวรัสโควิด19 นี้ ไม่ได้หมายความว่า คนญี่ปุ่นไม่ได้มีการฆ่าตัวตายเลย เพียงแต่ว่าอาจจะน้อยลง แต่ก็ถือเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เกิดเรื่องขึ้นมานั้น ถือว่าเป็นเคสอุทาหรณ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับใครจริงๆ และเป็นข่าวดังไปทั่วญี่ปุ่น ด้วยเจ้าของร้านหมูทอดทงคัตสึแห่งหนึ่ง

ซึ่งเป็นร้านชื่อดังในโตเกียวและเปิดขายมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี แม้ร้านจะมีปัญหาเรื่องการเงินอยู่บ้าง แต่ก็ยังประคับประคองมาได้ และปีนี่ทั้งครอบครัวก็คิดว่าน่าจะเป็นปีที่ดีของพวกเค้า เพราะด้วยความที่เจ้าของร้านวัย 54 ปี ชอบวิ่งมาราธอนเป็นชีวิตจิตใจ พอรู้ว่าญี่ปุ่นมีการเปิดรับสมัครวิ่งคบเพลิงกีฬาโอลิมปิก เค้าไปลงสมัครและได้รับเลือกเป็นตัวแทน

ซึ่งเค้าคิดว่าจะช่วยให้เค้าได้โปรโมตร้านทงคัตสึของเขา และมั่นใจว่าจะขายดีอีกครั้งแน่นอน แต่ภัยโควิด ก็ทำให้โอลิมปิก ต้องถูกยกเลิกไป สุดท้ายสิ่งที่เค้าคาดหวังก็พังทลายลง และจบชีวิตตัวเองด้วยการฆ่าตัวตาย คำถามที่ว่าโควิดจะทำให้อัตราการตายในญี่ปุ่นลดลงจริงหรือ อาจจะไม่แน่ต่อไปซะแล้ว

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน แจกเครดิตฟรี ไม่ต้องฝาก

เปิดธุรกิจการขายอุปกรณ์การกีฬาทางออนไลน์

            เป็นที่ทราบกันดีว่าช่วงนี้ธุรกิจที่จะสร้างรายได้ให้กับประชาชนนั้นก็คือการขายของผ่านระบบการขายสินค้าออนไลน์ซึ่งหากมีการเปิดเป็นร้านค้าทั่วไปแล้วสินค้าของเราจะขายไม่ได้เนื่องจากว่าตอนนี้ผู้คนนั้นกลัวการออกนอกบ้านและตัวการระบาดของไวรัสโคโรน่าดังนั้นคนส่วนใหญ่มักหันมาใช้ในการซื้อสินค้าผ่านทางระบบออนไลน์โดยให้บริษัทขนส่งนั้น

ส่งสินค้ามาให้ที่บ้านนั่นเองแต่อย่างไรก็ตามสินค้าออนไลน์นั้นมีมากมายหลายประเภทที่จะให้เราไปขายดังนั้นธุรกิจอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจะสร้างรายได้ให้กับพ่อค้าแม่ค้านั่นก็คือธุรกิจขายอุปกรณ์การกีฬาเนื่องจากปัจจุบันนี้ผู้คนนั้นไม่ได้ออกไปนอกบ้านไม่ได้ไปเข้าฟิตเนสรวมถึงไม่ได้ไปออกกำลังกายตามสวนสาธารณะต่างๆ

เนื่องจากว่าทางรัฐบาลได้มีการปิดช่องทางการไปใช้บริการเหล่านี้เพราะเกรงว่าจะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาได้ดังนั้นหลายคนจึงต้องมีการออกกำลังกายที่บ้านซึ่งการออกกำลังกายนั้นทำมากมายได้หลายแบบด้วยกันแต่ส่วนใหญ่นั้นก็มักจะออกกำลังกายแบบง่ายๆเช่นการกระโดดเชือกการเดินรอบบ้านหรือแม้แต่การฝึกโยคะซึ่งการออกกำลังกายที่บ้านนั้น

ส่วนใหญ่ผู้คนก็มักจะต้องมีเสื่อที่จะเอาไว้รองรับเวลาที่เราออกกำลังกายอย่างเช่นคนที่เล่นโยคะหรือแม้แต่คนที่จะกระโดดเชือกออกกำลังกายอยู่ที่บ้านก็ต้องมีเชือกในการใช้กระโดดเชือกหรือบางคนอาจจะใช้การออกกำลังกายแบบฮูล่าฮูปซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้นี่เอง ที่เราสามารถนำมาขาย ให้กับคนที่ต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้านช่วงนี้

จะสร้างกำไรได้อย่างมากเพราะว่าคนส่วนใหญ่อยู่บ้านว่างว่างแล้วไม่มีอะไรทำก็จะหาเวลาว่างด้วยการออกกำลังกายหรือบางคนอยู่บ้านแล้วกินเยอะก็เลยจำเป็นตอ้งออกกำลังกายเพื่อที่จะได้ลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนนั่นเอง ดังนั้น สินค้าที่จะสร้างรายได้ให้กับพ่อค้าแม่ค้าในช่วงนี้เพิ่งก็คือ อุปกรณ์เกี่ยวกับการออกกำลังหายทุกชนิด

ซึ่งเรายังสามารถขายอุปกรณ์ออกกำลังกายนี้ให้กับเหล่าดารา หรือเหล่านักกีฬาได้อีกด้วย เพราะเชื่อเถอะว่าใครใครก็อยากมีรูปร่างงที่ดีด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครอยากกลับไปทำงานด้วยสภาพที่อ้วนท้วนเสื้อผ้าใส่ไม่ได้อย่างเด็ดขาดดังนั้น พวกเขาจึงจำเป็นต้องหาซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายเพราะตอนนี้ฟิตเนสก็ปิด ส่วนสาธารณะก็ไม่กล้าไปออกกำลังกายเพราะกลัวติดโควิด  ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องหาซื้ออุปกรณ์เพื่อเอามาช่วยในการออกกำลังกายอยู่แล้ว และนี่เองที่จะทำให้เป็นการสร้างรายได้ให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายในตอนนี้

 

สนับสนุนโดย  bk8